เมื่อวัชพืชเป็นศัตรูพืชปลูก จำเป็นต้องมีการกำจัด เพื่อให้ปริมาณวัชพืชลดลงหรือหมดไป และเพื่อให้การกำจัดหรือควบคุมนั้นมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จัก และทราบลักษณะทางพฤกษศาสตร์หรือวงชีพของวัชพืชนั้นๆ เสียก่อน เช่น วัชพืชที่มีหัวและไม่มีหัวต้องเลือกใช้วิธีการกำจัดหรือใช้ยาต่างกัน พืชใบแคบซึ่งส่วนใหญ่ หมายถึง หญ้าและกก นอกนั้นเป็นพืชใบกว้าง
วัชพืชมีการสนองตอบต่อยากำจัดวัชพืชต่างกันด้วย เช่น สารเคมีพวกกรดซัลฟิวริก (sulphuric acid) จะกำจัดพืชใบกว้างชนิดที่เป็นไม้ล้มลุกอายุสั้นได้ ทั้งนี้เพราะว่าตาหรือยอดอ่อนไม่มีใบหุ้ม สารเคมีจะถูกตา ทำให้ตาหรือยอดอ่อนเสียไป ไม่เจริญเติบโต ส่วนพวกหญ้าและกกซึ่งเป็นพืชใบแคบ ยอดอ่อนหรือตาถูกหุ้มด้วยกาบใบหลายชั้น สารเคมีเข้าถึงตาหรือยอดอ่อนได้ยาก หรือไม่ได้ จึงทำให้การกำจัดวัชพืชเหล่านี้ไม่ได้ผลดีนอกจากนี้แล้ว ยังต้องพิจารณาถึงสภาพแวดล้อม และขนาดเนื้อที่ที่ทำการเพราะปลูกด้วย การกำจัดวัชพืชมีหลายวิธีดังนี้
1.กำจัดหญ้าด้วยการใช้มือถอน
หากเราพบหญ้าที่เป็นศัตรูของต้นไม้ที่บ้านหรือสวนของเรา วิธีง่ายๆ คือการถอนออก อาจจะต้องทำให้พื้นดินนั้นนิ่มลงก่อนด้วยการรดน้ำ แล้วจึงถอนออก
2.สเปรย์ด้วยแอปเปิลไซเดอร์
นำแอปเปิลไซเดอร์ใส่ขวดสเปรย์พ่นรอบแปลงต้นไม้ หรือฉีดลงบนวัชพืชโดยตรง หรือถ้าต้องการปลูกต้นไม้อะไรอาจนำแอปเปิลไซเดอร์ผสมกับดินแล้วโปรยเมล็ดปลูกลงไป แอปเปิลไซเดอร์จะเคลือบที่รากเพื่อไม่ให้วัชพืชแย่งอาหาร
3.น้ำเกลือ
ผสมเกลือกับน้ำเปล่าแล้วต้มจนเดือนก่อนจะนำไปราดลงบนหญ้าหรือวัชพืชโดยตรง เหมาะมากสำหรับกำจัดหญ้าที่ขึ้นจากรอยแยกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน หรือในสวน
4.เบกกิ้งโซดา
บอกแล้วว่าเบกกิ้งโซดานั้นมากประโยชน์ เราสามารถนำผงเบกกิ้งโซดาโรยไปบนวัชพืชได้แบบโดยตรง ไม่ว่าวัชพืชนั้นจะอยู่บริเวณส่วนใดของบ้านหรือสวน
5.น้ำร้อน
หลังจากประกอบอาหารที่เป็นวิธีการต้ม น้ำที่จะเททิ้งไปเฉยๆ เราสามารถนำน้ำร้อนๆ นั้นมาเทลงบนหญ้า หรือวัชพืชได้ทันที และด้วยความร้อนนั้นจะสามารถกำจัดหญ้าและวัชพืชได้เป็นอย่างดี
6. เครื่องตัดหญ้า
แน่นอนว่าวิธีการจำกัดวัชพืช อีกวิธีนึงก็คือ การมี เครื่องตัดหญ้า ไว้ติดบ้าน เมื่อพวกวัชพืชลืมขึ้นก็ตัด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเห็นที่ไหนแล้วจะตัดออกเลยทันที เพราะควรรดน้ำให้ดินเปียกชุ่มซะก่อนหรือรอหลังจากฝนหยุดตกแล้วค่อยถอนออก เพราะในขณะที่ดินชุ่มน้ำ ดินจะคลายตัวทำให้ถอนหญ้าออกทั้งรากได้ง่ายกว่าดินแห้ง ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้รากขาดง่ายมาก
ที่มา:sanook.com/home