วิธีกำจัดเชื้อราในบ้าน พร้อมบอกสาเหตุและวิธีป้องกันเชื้อราลุกลาม ด้วยวิธีกำจัดเชื้อราในบ้านที่ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
เชื้อราเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พ่อบ้านแม่บ้านไม่อยากจะเผชิญมากที่สุด เนื่องจากทำความสะอาดยาก ลุกลามอย่างรวดเร็ว หน้าฝนทีไรเป็นต้องปวดหัวกับเชื้อราที่ผุดขึ้นตามผนังและพื้นที่ต่าง ๆ ของบ้านทุกที แต่ก็ใช่ว่าเชื้อราจะไม่สามารถกำจัดและป้องกันไปได้ซะทีเดียว ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะกระปุกดอทคอมได้รวบรวมวิธีกำจัดและป้องกันเชื้อราในบ้านมาฝากแล้ว
เชื้อราสืบพันธุ์ด้วยการสร้างและปล่อยสปอร์ลอยไปตามอากาศ เมื่อเจอกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแล้วก็จะเจริญเติบโต ซึ่งบางครั้งลมที่เข้าในบ้านก็อาจจะมีเชื้อราอยู่ด้วย และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราภายในบ้าน จะสังเกตได้ว่าพื้นที่ที่เกิดเชื้อรามักมีคราบจากน้ำฝนด้วย ทั้งนี้ก็เพราะเชื้อราจะเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีความชื้นสูงและไม่มีแสงแดดนั่นเอง
วิธีป้องกันการเกิดเชื้อรา
1. ไม่หมักหมมเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไว้หลายวัน
เชื้อราจะใช้เวลาประมาณ 2 วันในการเจริญเติบโต ถ้าได้อยู่ในภาวะความชื้นที่เหมาะสม ฉะนั้นผ้าเช็ดตัวหรือสิ่งของต่าง ๆ ที่ใช้แล้วควรจะนำไปทำความสะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง แม้กระทั่งผ้าที่ซักแล้วก็ควรรีบนำออกจากเครื่องซักผ้าตากทันที
2. ดูดฝุ่นทุกซอกทุกมุม
ตามมุมบ้านเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดเชื้อรามากที่สุด เนื่องจากลมและแสงแดดเข้าไม่ถึง การดูดฝุ่นนอกจากจะช่วยทำความสะอาดแล้ว ยังช่วยกำจัดความชื้นตามซอกตามมุมเหล่านี้ได้อีกด้วย
3. เปิดพัดลมดูดอากาศหลังอาบน้ำ
ความชื้นหลังจากอาบน้ำหรือใช้ห้องน้ำสามารถกระจายเข้าไปอยู่ในทุกซอกทุกมุม รวมถึงซอกเล็ก ๆ ที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วย เมื่อปล่อยไว้นาน ๆ ก็จะทำให้เกิดเชื้อรา ทั้งนี้ป้องกันได้โดยการเปิดพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำหลังการใช้งานทุกครั้ง
4. ตรวจเช็กรอยทั่วตามท่อ
นอกจากฝนแล้วความชื้นในบ้านบางส่วนก็อาจจะมาจากรอยรั่วของท่อน้ำภายในบ้าน ทั้งนี้ถ้าสังเกตเห็นน้ำหรือรอยคราบเหลืองของน้ำตามผนังให้ตรวจเช็กท่อน้ำในบริเวณนั้น ถ้าท่อเก่าแล้วแนะนำให้เปลี่ยนท่อใหม่เพื่อป้องกันการเกิดรอยรั่วซ้ำ
5. ไม่เก็บของในมุมอับ
สิ่งของหรืออุปกรณ์ที่นาน ๆ จะหยิบมาใช้ที อย่างเช่น เต็นท์ ไม่ควรจะเก็บไว้ในมุมอับ ถึงแม้ว่าจะใช้ปีละครั้งสองครั้งก็ตาม เพราะอาจจะมีความชื้นจากการทำความสะอาดหลงเหลืออยู่ เมื่อนำไปเก็บในมุมอับชื้นก็ยิ่งจะทำให้เกิดเชื้อรา ให้หมั่นนำมาผึ่งแดด หรือเก็บไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงสว่างเพียงพอ
6. ซ่อมหลังคา
ฝนถือเป็นอีกสาเหตุของการเกิดเชื้อรา เนื่องจากหลังคาเป็นส่วนที่ติดกับผนัง ถ้าหลังคามีรอยรั่ว น้ำฝนจะไหลตามรอยรั่วและผนัง ซึ่งถ้าปล่อยให้เกิดบ่อย ๆ โดยที่ไม่ซ่อม พื้นที่ที่โดนน้ำฝนก็จะเกิดเชื้อรา
7. เปิดแอร์จำกัดความชื้น
หลักการทำงานของแอร์คือ จะกำจัดความชื้นในอากาศ ทำให้อากาศแห้ง ฉะนั้นการเปิดแอร์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราในบ้านได้ โดยเฉพาะหลังฝนตก บ้านจะมีความชื้นสูง การเปิดแอร์จะช่วยกำจัดความชื้นได้เร็วขึ้น
8. เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
การเปิดหน้าต่างจะช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก ลมจะช่วยพัดความชื้นในบ้านออกไป ในระหว่างวันที่ไม่ได้เปิดแอร์ควรจะเปิดหน้าต่าง หรือจะเปิดทิ้งไว้ตอนที่ไม่ได้อยู่ในห้องก็ได้
9. ปิดหน้าต่างและประตูให้มิดชิดเมื่อฝนตก
ระหว่างที่ฝนตกควรปิดหน้าต่างและประตูให้มิดชิดถึงแม้จะไม่ใช่พายุฝนก็ตาม เพราะในอากาศมีละอองฝนที่สามารถพัดพาเข้ามาในบ้านได้ทุกเมื่อ เมื่อความชื้นเพิ่มขึ้นโอกาสในการเกิดเชื้อราก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นด้วย
วิธีกำจัดเชื้อรา
1. กำจัดด้วยผงซักฟอก
ผสมผงซักฟอกและน้ำสะอาดแล้วตีให้เกิดฟอง ใช้แปรงหรือผ้าจุ่มน้ำผงซักฟอก นำไปขัดทำความสะอาดบริเวณที่เกิดเชื้อรา จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก่อนทิ้งไว้ให้แห้ง
2. กำจัดด้วยน้ำยาซักผ้าขาว
ดูดฝุ่นพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาด ผสมผงซักผ้ากับน้ำในอัตราส่วน 1:10 จากนั้นนำใส่ขวดสเปรย์แล้วนำไปฉีดพื้นที่ที่มีเชื้อรา ทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นใช้ผ้าถู ล้างน้ำสะอาด เป่าลมให้แห้งสนิท
3. กำจัดด้วยบอแร็กซ์
ผสมบอแร็กซ์กับน้ำให้เข้ากัน จากนั้นใช้แปรงจุ่มน้ำบอแร็กซ์แล้วขัดตามพื้นที่ที่เกิดเชื้อรา ไม่ต้องล้างออกทันทีที่ขัดเสร็จ ให้ทิ้งสักพักแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป่าลมให้แห้งสนิททันที
4. กำจัดด้วยน้ำส้มสายชู
นำน้ำส้มสายชูใส่ขวดสเปรย์โดยที่ไม่ต้องผสมน้ำ นำไปฉีดให้ทั่วพื้นที่ที่เกิดรา ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า ทิ้งไว้ให้แห้ง
5. กำจัดด้วยแอมโมเนีย
นำแอมโมเนียและน้ำสะอาดผสมใส่ขวดสเปรย์อย่างละครึ่ง จากนั้นฉีดใส่พื้นที่ที่เกิดรา ทิ้งไว้ประมาณ 2–3 ชั่วโมง แล้วใช้ผ้าเช็ดแล้วทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด
6. กำจัดด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
นำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้น 3% ใส่ขวดสเปรย์โดยที่ไม่ต้องผสมน้ำ ฉีดพรมบริเวณที่เกิดเชื้อราให้เปียกชุ่ม ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นใช้แปรงขัดคราบและเชื้อราออก สุดท้ายใช้น้ำสะอาดทำความสะอาดอีกรอบ
7. กำจัดด้วยเบกกิ้งโซดา
ผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำสะอาดลงในขวดสเปรย์ เขย่าให้เบกกิ้งโซดาละลาย นำไปฉีดพรมให้ทั่วพื้นที่ ใช้ฟองน้ำหรือแปรงขัดทำความสะอาด ล้างออกด้วยน้ำเปล่า จากนั้นฉีดน้ำในขวดสเปรย์ที่ผสมไว้อีกรอบ ปล่อยให้แห้งโดยที่ไม่ต้องล้างออก
8. กำจัดด้วยที ทรี ออยล์
ผสมน้ำเปล่ากับที ทรี ออยล์ ลงในขวดสเปรย์ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง จากนั้นนำไปฉีดให้ทั่วบริเวณที่เกิดเชื้อรา ไม่ต้องทำความสะอาดหรือล้างออก ที ทรี ออยล์จะช่วยฆ่าและป้องกันการเกิดเชื้อราซ้ำ
9. กำจัดด้วยสารสกัดเมล็ดองุ่น
ผสมสารสกัดเมล็ดองุ่นกับน้ำในขวดสเปรย์โดยใช้อัตราส่วน 10 หยด ต่อ น้ำ 1 ถ้วย เขย่าให้เข้ากัน จากนั้นไปไปฉีดพรมพื้นที่ ทิ้งไว้สักครู่แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดออกโดยที่ไม่ต้องล้างทำความสะอาด ทำซ้ำ ๆ จนกว่าเชื้อราจะหมด
ตัวช่วยเรื่องความชื้น https://www.sgethai.com/product/siliga-gel/ ซองกันชื้น
ที่มา kapook