หลายคนคงเคยเห็นต้นกล้วยและดอกของกล้วยซึ่งก็คือหัวปลีหรือปลีกล้วย (Banana Flower หรือ Banana Blossom) หลายคนเคยเห็นใส่มากับผัดไทย แต่ไม่เคยลองกินและหยิบทิ้งทุกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าหัวปลีนั้นกินได้และมีประโยชน์กับสุขภาพอย่างมาก
หัวปลี คืออะไร
“ หัวปลี ” หรือ “ปลีกล้วย” เป็นดอกที่ปลายลำต้นของต้นกล้วย โดยเมื่อกล้วยเจริญเติบโตเต็มที่ หัวจะสร้างใบสุดท้ายที่เรียกว่าใบธง จากนั้นจะหยุดสร้างใบใหม่ และเริ่มสร้างช่อดอก ลำต้นที่มีช่อดอกอ่อนบรรจุอยู่ ก่อนจะพัฒนาขึ้นภายในลำต้นเทียม จนในที่สุดมันก็โผล่ออกที่ด้านบนลำต้นเทียม โดยแต่ละลำต้นเทียมจะสร้างช่อดอกเพียงช่อเดียวเป็น “ปลี”
ประโยชน์และสรรพคุณของ หัวปลี
- อุดมไปด้วยแคลเซียมมากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า โปรตีนธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เบต้าแคโรทีน
- ช่วยบำรุงนํ้านม และเพิ่มคุณค่าสารอาหารในน้ำนมแม่ จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับแม่ลูกอ่อน
- รักษาโรคกระเพราะอาหารอักเสบ แก้ปวดท้อง บำรุงลำไส้ อีกทั้งยังสามารถลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
- ปลีกล้วยมีธาตุเหล็กจึงเป็นยาบำรุงเลือด แก้ภาวะโลหิตจาง และยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้นปลีกล้วยอุดมไปด้วยแคลเซียม จึงช่วยบำรุงฟันให้แข็งแรง และช่วยให้ฟันขาวสะอาดแข็งแรง
- แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
- มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด จึงดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ปลีกล้วยมีสารกลุ่มฟีโนลิก เช่น แอนโทไซยานิน เบตา-แคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้า
- อนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้
- แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้ปวดประจำเดือน
- ยางจากหัวปลีก็ใช้รักษาแผลสด หรือทาบริเวณที่บวมจากแมลงสัตว์กัดต่อย
- ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคจึงใช้รักษาอาการติดเชื้อได้
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้นวลเนียน ดูมีน้ำมีนวล
- ช่วยรักษาแผลในปากให้หายเร็วขึ้น ช่วยแก้ร้อนใน แผลปากเปื่อย
คุณค่าทางโภชนาการอาหารของ หัวปลี
ชาวยุโรปผู้ที่ทานมังสวิรัติได้นำหัวปลีมาแปรรูปแทนเนื้อสัตว์ เพราะมีโปรตีนสูงและมีเนื้อสัมผัสคล้ายกับเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะนำมาทำเนื้อปลาเทียม ผู้ที่เป็นมังสวิรัติจะนิยมมากส่วนคุณค่าทางโภชนาการของหัวปลีนั้น มีดังนี้
- พลังงาน 30 กรัม
- น้ำ 93 กรัม
- โปรตีน 2 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม
- ใยอาหาร 1 กรัม
- แคลเซียม 40 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 50 มิลลิกรัม
- เหล็ก 2 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 601 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 290 I.U.
- เบตา-แคโรทีน 193 Ug
- วิตามินซี 28 มิลลิกรัม
- สารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟีนอลิกรวม ฟลาโวนอยด์ แทนนิน และซาโปนิน
การนำ หัวปลี ไปใช้
การนำ หัวปลี หรือปลีกล้วยไปปรุงอาหาร จะต้องลอกใบสีแดงด้านนอกออกให้หมดเสียก่อน แล้วจึงจะได้ใบสีขาวนวลที่อยู่ภายในซึ่งเป็นดอกของกล้วย นำมาผ่าครึ่งตามยาว แล้วจึงนำปลีกล้วยไปแช่ในน้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชูผสมน้ำให้เจือจาง เพื่อไม่ให้สีคล้ำ จากนั้นให้ตัดแกนกลางของมันทิ้ง ดอกที่แก่ให้ดึงออก สามารถนำไปกินได้ทั้งสุกและดิบ แบบดิบจะนิยมนำมาใช้เป็นผักเครื่องเคียงกับของคาว เช่น ผัดไทย น้ำพริก เป็นต้นความกรุบกรอบและรสชาติฝาดๆ จะช่วยตัดรสชาติถือเป็นเครื่องเคียงที่กินคู่กับอาหารคาวแล้วเพิ่มความอร่อย ลดความมันได้ แต่หากจะนำไปปรุงให้สุก ก็จะได้หลายเมนู เช่น แกงไก่ แกงกะทิ แกงอ่อม ต้มยำ น้ำเงี้ยวเอาไว้กินกับขนมจีน ห่อหมก หรือจะนำไปผัดง่ายๆ เป็นผัดผักก็ดี เพราะจะได้รสหวานๆ มันๆ กรุบกรอบเคี้ยวเพลิน
แนะนำ: เครื่องคั้นน้ำอ้อย แบบ Manual ใช้มือหมุน ราคาเริ่ม 6,000฿ รีดแห้งสนิท 150 กก/ชั่วโมง ได้น้ำอ้อยแบบเต็มเม็ด เต็มหน่วย หรือถ้าต้องการความรวดเร็ว แนะนำเครื่องคั้นน้ำอ้อยแบบ Auto ที่คั้นอ้อยเพียงครั้งเดียวได้น้ำอ้อยแบบแห้งสนิม ไม่ต้องคั้นหลายๆ รอบ ผลิตน้ำอ้อยได้มากกว่า 300 กก. ชั่วโมง